เที่ยวทะเลสุขใจ อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม ถ้ำมรกต

เชื่อว่าใครที่ได้ไปดำน้ำดูปะการังที่ทะเลเมืองตรังแล้ว คงพลาดไม่ได้ ต้องแวะไปชมถ้ำมรกต ในอุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม กันแน่นอน สำหรับ ถ้ำมรกต ก็อย่างที่บอกเป็นถ้ำอยู่แล้ว แต่ถ้ำมรกตที่ว่านั้นอยู่กลางทะเล ทางเข้าจะเป็นอุโมงเล็กๆ เราจะใช้วิธีลอยคอ (รอคอย) ผ่านอุโมงค์เข้าไป เมื่อเข้าไปถึงด้านในจะเป็นหาดทราย เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าจะเห็นเขาล้อมรอบทุกด้าน บางคนบอกว่าเวลาแหงนหน้ามองปากภูเขาเป็นรูปหัวใจด้วยนะ แต่เราก็ยังมองไม่เห็นเป็นอย่างที่ว่าสักเท่าไร

หลังจากที่เรือมาถึง เราไปในช่วงที่มีเรือนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เป็นหมู่คณะเยอะ การจราจรทางเรือเลยติดขัดเล็กน้อย เรือเช่าที่เราเช่ามาทิ้งสมอจุดที่คิดว่าใกล้ที่สุดก่อนจะพาเราเข้าสู่ตัวถ้ำมรกณ

วิธีการเข้าถ้ำมรกต คือทุกคนสวมเสื้อชูชีพ และเกาะไหล์คนหน้าไว้ลอยคอไปตามอุโมงค์ทางเข้า โดยมีพี่ๆ ไกด์ที่เป็นขับเรือพาเรามาเป็นคนลากเราผ่านอุโมงค์ ถ้ำมรกต 

ช่วงที่ผ่านอุโมงค์แรกๆ ก็รู้สึกสวยดีแต่ยิ่งเข้าไป ยิ่งมึดจนสุดท้ายมืดสนิทไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแสงไฟจากไฟฉายที่ผูกจากศรีษะของพี่ๆ ไกด์เท่านั้น เราก็เกาะกันกับเพื่อนแน่นเลย

เพียงไม่นานเราก็พบแสงสว่างและปลายอีกด้านเป็นหาดทรายน้ำตื่นๆ วิว ทิวทัศน์สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขาและมีพันธุ์ไม้ป่าชายหาดมากมาย

อันนี้เริ่มจากที่เรือเรามาถึงก็การจราจรทางน้ำติดขัดจริงๆ ต้องทิ้งสมอไกลก่อนจะต้องลอยคอเข้าอุโมงค์

เห็นป้ายไกลๆ เล็กๆ นั้นไหม นั้นแหละ ที่เขียนว่า "ถ้ำมรกต" ไกลใช่ไหมละ

วันนี้ทัวร์ลงเยอะ คนเลยเยอะ คึกคักไปทันตาเลย

ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย

ที่บอกว่าล้อมรอบด้วยภูเขาก็ประมาณนี้แหละ แต่ว่าต้นไม้เยอะจริงเลยนะ "ถ้ำมรกต"

ในบริเวณนั้นๆ ก็จะมีป้ายบอกให้เรารู้ว่าเรามาถึง อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม ถ้ำมรกต แล้วนะ ใช้เวลานานมากกว่ากว่าจะได้รูปเดียว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนก็อยากจะได้ถ่ายรูปป้ายนี้แหละ

สำหรับป้ายนี้ก็จะบอกประวัติความเป็นมาเล็กๆน้อยๆ ของถ้ำมรกต แห่งนี้ รายละเอียดมีดังนี้เลย

อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม ถ้ำมรกต หรือเรียกอีกอย่างว่าถ้ำน้ำ มีความยาวทั้งหมด 80 เมตร กลุ่มราษฎรท้องถิ่นได้เข้ามาถ้ำมรกตครั้งแรกเพื่อหารังนกอีแอ่น เนื่องจากในอดีตถ้ำแห่งนี้จะมีนกอีแอ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และต่อมาโจรสลัดที่ปล้นมาได้ ซุกซ่อนไว้ในที่แห่งนี้ระยะหนึ่ง แล้วจึงนำของดังกล่าวออกไป 

เมื่อมองดูรอบๆ เหมือนเรายืนอยู่ในปล่องขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของหินปูนในอดีต สำหรับพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่เห็นบริเวณหาดทราย เป็นพันธุ์ไม้ป่าชายหาด ซึ่งประกอบด้วย หูกวางทะเล เตยทะเล จิกทะเล และบริเวณหน้าผาเป็นป่าหินปูนประกอบด้วย สลัดได จันทร์ผา บอนชนิดต่างๆ 

สำหรับถ้ำมรกตแห่งนี้ เป็นมรดกที่มีค่าของทุกท่านที่มาเยือน โปรดถนอมรักษาไว้ให้ลูกหลาน ได้ชื่นชมอย่างยั่งยืน การเดินทางออกจากถ้ำ หากท่านพลัดหลงจากหมู่คณะ ขอให้เดินทางออก โดยชิดซ้ายของผนังถ้ำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงปากถ้ำ และขอให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พีช)

อันนี้ป้ายอะไรไม่รู้อ่านไม่ค่อยออก แต่ก็ถ่ายเก็บไว้นะ

เรามากันแบบทริปเพื่อนๆ เลยไม่ค่อยรีบร้อน แต่กลุ่มที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ต้องกลับแล้ว มาดูวิธีเกาะไหล่ที่ใช้ในการเข้าออกกันดีกว่า

ใครที่ได้ไปเที่ยวตรังแล้ว หาโอกาสไปเที่ยว ถ้ำมรกต ให้ได้นะสวยทั้งข้างนอกและข้างในเลยละ