พาชมบรรยาการ วัดพิกุลทอง ไหว้พระขอพร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถิ่นคนกล้า

ได้แวะผ่านไปงานบวชที่จังหวัดสิงห์บุรี พอเสร็จธุระก็ได้มีโอกาสแวะไปเที่ยววัดพิกุลทอง เลยเก็บภาพบรรยากาศมาลงบทความของตัวเองนิดหน่อย

วัด พิกุลทอง อยู่ในเขตตำบลวิหารขาว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 16 กิโลเมตร อยู่ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ วรวิหารไปประมาณ 9 กิโลเมตร เดิมชื่อว่า “วัดใหม่พิกุลทอง” แต่มักเรียกขานกันว่า “วัดใหม่” เพราะสร้างขึ้นใหม่ในเขตบริเวณนี้
สร้าง เมื่อ พ.ศ.2434 โดยขุนสิทธิ์ , นายกลับ สถิตย์บุตร และนายช่วง เป็นหัวหน้าดำเนินการก่อสร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2440 ต่อมาในปี พ.ศ.2483 ได้ขอเปลี่ยนนามวัดเป็น “วัดพิกุลทอง”
บริเวณ วัดพิกุลทองแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนของตัววัดเดิมและส่วนของที่สร้าง ขึ้นใหม่ฝั่งตรงข้าม เป็นวัดที่มีความสวยงามด้วยศิลปกรรมและการตกแต่ง มีศาสนสถานที่สำคัญหลายอย่าง เช่นวิหารรูปหล่อหลวงพ่อแพองค์ใหญ่ ,วิหารพระพุฒจารย์โต,พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ,พระพุทธรูปประทานพรขนาดใหญ่ พระพุทธสุวรรณมงคลหามุนี,พระสีวลี,พระสังกัจจายนะ,วิหารคด,พระประธานใน อุโบสถ,พระพิฆเนศ ภายในวัดร่มรื่น มีจุดนั่งพักผ่อนทั่วบริเวณ ด้านหน้าวัดมีตลาดของกินและของฝากหลายอย่าง 

บริเวณวัดยังมีสวนธรรมะ และสิ่งก่อสร้างที่สวยงามน่าสนใจ มีต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีสบายตา แวดล้อมด้วยบรรยากาศสงบร่มรื่น เย็นสบาย สะอาด วัดได้รับการดูแลรักษาอย่างดี สภาพสมบูรณ์น่าเที่ยว และมีบ่อน้ำที่มีปลาชุกชุมให้อาหารได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้านหลัง ของวัดยังมีสิ่งศักดิสิทธิ์ของชาวไทยตามความเชื่อทางพราหม์-ฮินดู คือ พระพิฆเนศ เทพแห่งศิลปะวิทยาการ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธา อย่างมากอยู่ด้วย โดยองค์พระพิฆเนศมีขนาดใหญ่มาก ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางน้ำ ลำตัวสีนวล ทางวัดได้สร้างสะพาน ไว้เพื่อให้ ประชาชน สามารถเข้าไปกราบไหว้บูชาได้ 

เริ่มกันที่ช่วงทางเข้าของวัดพิกุลทองเป็นถนนยาวสุดลูกหูลูกตา และจะเห็นหลวงพ่อแพองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านใหญ่โต ผมแวะถ่ายรูปจากมุมไกลๆ ซึ่งการถ่ายรูปเพื่อให้ได้รูปสวยงามก็ต้องมาถ่ายที่กลางถนนขนาด 4 เลน และก็มีรถวิ่งไปวิ่งมา แม้จะไม่ขวักไขว่มากแต่ก็ต้องแอบระวังรถจากด้านหลังบ้าง

สำหรับด้านข้างทั้งสองข้างของ ถนนเข้าวัดจะเป็นนาข้าว ขณะที่ผมไปก็เขียวขจี มีนกบินไปบินมา 

ทุ่งนากว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตาจริงๆ

หลังจากแวะถ่ายรูปจากมุมไกล เมื่อเข้ามาใกล้ตัววัดก็ยังถ่ายรูปมาฝากกัน

ที่ด้านข้างมีสวนดอกไม้ทานตะวัน มีเพิงศาลาให้นั่งเล่น มีโซนถ่ายรูป

ใครอยากพักผ่อน ชมดอกทานตะวัน หรือถ่ายรูปเก็บความประทับใจเข้าไปได้เลย

ด้านหลังสวนทานตะวันมีพระพิฆเนศ อยู่ไกลๆ

ทางเข้าทุ่งทานตะวันมีหลายทาง ผมเดินอ้อมมาเล็กน้อย หาทางเข้า ก็ได้ถ่ายรูป เป็นรูปปั้นคนเลี้ยงควายอยู่ใกล้ๆ 

อีกมุมถ่ายจากด้านนอกเข้าไปในทุ่งทานตะวัน

เน้นทุ่งทานตะวันนิดหน่อย

มีรูปปั้น ม้า หรือเปล่า ตรงบริเวณลำตัวมีช่องให้คนเข้าไปนั่ง ถ่ายรูปได้ด้วยนะ

เดินไปด้านข้างหาทางเข้าไปอยู่

 

มีโซนดูดวงด้วยนะ ใครที่ชอบดูดวง ก็แวะได้เลย

ทุ่งทานตะวัน ถ่ายกลับไปยังถนนทางที่เข้ามา

มุมพยายามให้ใกล้ พระพิฆเนศ

พยายามถ่ายภาพบรรยากาศภายในวัดมา แต่ไม่ค่อยได้เข้าไปด้านในเท่าไร นะครับ
ขอรวมรูปภายในวัดกันให้ชมกันนะ

วิหารหลวงพ่อแพ ด้านหน้าก็จะมีรูปปั้น สัตว์มากมาย ไก่ กระต่าย ช้าง

หลวงพ่อแพองค์ใหญ่ ถ่ายจากด้านข้างนะครับ 

สวนหย่อมเล็กๆน้อยๆ

หลวงพ่อแพองค์ใหญ่ ยืนถ่ายจากฐาน 

xxxxxxxx

ถนนที่เราเข้ามา

มีระฆังให้เคาะสำหรับปัดเป่าด้วย

ภาพอื่นๆบ้าง

วิหาร พระธรรมราชานุวัตร

ด้านในเหมือนมีงานหรือเปล่าไม่แน่ใจ มีร้านขายของแต่ มีแค่ร้านไม่กี่ร้าน ส่วนมาเป็นข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับกิจของสงฆ์

มุมเล็กๆ ด้านหน้า

พระสังกัจจายองค์ องค์ใหญ่ ใครอยากขอพรให้ร่ำให้รวยต้องขอกับ พระสังกัจจาย

ด้านหน้าของพระสังกัจจายองค์ใหญ่ก็จะมีองค์เล็กอยู่

เดินแบบวนรอบมาแล้ว ก็กลับมาที่เดิมเลยถ่ายรูปมุมเดิมอีกสักหน่อย

ถ้าใครได้ไปสิงห์บุรีก็ลองแวะไปกราบไหว้พระที่วัดพิกุลทองกันนะครับ

การเดินทาง ด้วยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3032 เมื่อถึง กม.ที่ 7-8
ให้สังเกตป้ายบอกทางไปวัดพิกุลทอง ขับไปตามถนนหมายเลข 3008 ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพิกุลทอง